รู้ทันลดเสี่ยง QR CODE ช็อปปลอดภัยไม่ง้อเงินสด

เมื่อก้าวเข้าสู่ยุค “ดิจิทัล” ที่นำสารพัดเทคโนโลยีมาช่วยให้ชีวิตมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง “เงิน” ได้กลายเป็นเรื่อง “ง่าย” ในการจับจ่ายใช้สอยอย่างมาก จากยุค “รูดปรื้ด” ผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต มาถึงตอนนี้มีระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Payment ยิ่งง่ายหนักเข้าไปใหญ่

 

อยากช้อปปิ้งไม่ต้องเดินห้าง ร้านค้าออนไลน์มีอยู่เพียบที่ชวนเชิญให้เลือกซื้อสินค้ากันบนหน้าจอมือถือ โน๊ตบุ๊ค หรือ ไอแพด จ่ายเงินกันได้เสร็จสรรพไม่ต้องเดินเข้าแบงก์ หรือจะออกไปเดินห้างก็ไม่ต้องพกเงินสดให้กลัวว่าเงินจะหล่นหาย แค่มีมือถือติดไว้เป็นพอ เป้าหมายการก้าวสู่ “สังคมไร้เงินสด” คงอยู่ไม่ไกลนักสำหรับเมืองไทย

ยิ่งตอนนี้เราสามารถซื้อสินค้าจากหาบเร่แผงลอย ขึ้นแท็กซี่ ขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และจ่ายเงินเริ่มต้นเพียงหนึ่งบาทได้ ไม่มีปัญหาเรื่องเงินทอน ผ่านระบบ “คิวอาร์โค้ด” (QR Code) แค่สแกนปุ๊ป จ่ายเงินปั๊ป โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ อีกด้วย เรียกว่า สะดวกในการ “ซื้อ ขาย จ่าย โอน” แบบสุดๆ ไม่ต้องง้อเงินสด

แม้ QR Code จะมีข้อดีมากมายทั้งต่อผู้ใช้ทั่วไปและร้านค้าที่เห็นชัดๆ คือ ความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะไม่ต้องพกเงินสด หรือบัตรหลายใบให้ยุ่งยาก แถมยังปลอดภัยกว่าการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต เพราะไม่ต้องยื่นบัตรให้ร้านค้า จึงไม่เสี่ยงต่อการโดนขโมยข้อมูลทางการเงิน ส่วนร้านค้าเองก็ได้ประโยชน์จากการใช้ QR Code เช่นกันคือ ไม่ต้องมีเครื่องรูดบัตรใดๆ มารองรับการชำระเงิน ทำให้ประหยัดต้นทุนไปได้อย่างมาก

แต่ใช่ว่า QR Code จะมีแต่ข้อดีไปทั้งหมด ซึ่งการที่ต้องมีการผูกระบบเข้ากับบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัญชีธนาคารของเรา ยังเป็นเรื่องที่หลายคนกังวล เพราะมีความเสี่ยงเหมือนกันที่เงินในบัญชีของเราจะสูญหายได้

QR Code หรือ “Quick Response Code” เป็นรหัสที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Barcode ให้สามารถใช้งานง่ายขึ้น แถมยังเก็บข้อมูลได้มากกว่า เพียงแค่เรามีสมาร์ทโฟนก็สามารถสแกนข้อมูลผ่าน QR Code ได้แล้ว ทำให้เห็นว่าปัจจุบันนิยมนำ QR Code มาเป็นช่องทางเข้าถึงข้อมูลในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ อย่างเช่นการเพิ่มเพื่อนใน Line ที่เราทุกคนต่างคุ้นเคยกันอย่างดี

วิธีจ่ายผ่าน QR Code ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนและดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสำหรับการจ่ายเงินด้วยระบบ QR Code แค่นี้ก็สามารถทำได้แล้วผ่าน 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ตามนี้

1. เข้าไปในแอปพลิเคชันสำหรับชำระเงินผ่าน QR Code แล้วเลือกประเภทว่าจะชำระเงินด้วยอะไร เช่น บัตรเครดิต โอนเงินจากบัญชี หรือ e-Wallet

2. สแกน QR Code ของร้านค้าผ่านแอปพลิเคชันที่อยู่บนสมาร์ทโฟน

3. ใส่จำนวนเงินที่ต้องการจ่าย และกดยืนยันการชำระเงิน

4. ระบบแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการจะส่งข้อมูลยืนยันการชำระเงินกลับมาให้เรา โดยอาจจะเป็น SMS หรือ E-Mail เพื่อเป็นหลักฐานการชำระเงิน

แล้วจะใช้อย่างไรให้ปลอดภัย เพราะแม้ว่าเทคโนโลยีใหม่แค่ไหน แต่เหล่ามิจฉาชีพก็ไม่เคยปล่อยลอยนวล ดังนั้น เราต้องรู้เท่าทันถึงความเสี่ยงจากการใช้ QR code ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่หลับหูหลับตาปิ๊ปไปเรื่อย โดยความเสี่ยงหลักจะมีด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่

1. Malicous QR เป็น QR ที่ฝัง malware ไว้ใน QR ซึ่งเมื่อสแกน QR จะทำให้เครื่องมือถือติด malware

2. Fake QR เป็น QR ปลอมที่ผู้ทุจริตสร้าง QR code ปลอมขึนมาแทนที่ QR code ของร้านค้า ทำให้รายการชำระเงินถูกโอนไปยังผู้ทุจริต แทนการโอนเงินเข้าบัญชีของร้านค้า

การป้องกันความเสี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นคือ ตรวจสอบความเรียบร้อยของ QR code โดยสังเกตว่า QR code นั้น อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยสมบูรณ์ไม่เป็นสติ๊กเกอร์มาแปะหรือมีรอยนูน และตรวจสอบความถูกต้องของ QR code และส่วนประกอบอื่นๆ ให้สังเกตที่ภาพ โลโก้ และการสะกดต้องมีความถูกต้อง

รวมทั้งต้องใช้ scanner ที่มีความปลอดภัย มีฟังก์ชั่นในการเตือนให้ทราบว่าเป็น QR codeปลอมหรือไม่ และไม่พิมพ์ข้อมูลส่วนตัวใดๆ ภายหลังจากการสแกน QR code แล้ว ตลอดจนระมัดระวังในการสแกน QR code ที่ติดตั้งไว้ในที่สาธารณะต่างๆ

ยิ่งมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้เท่าไหร่ เรายิ่งต้องเรียนรู้ให้เท่าทันมากเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ ต้องระมัดระวังและรอบคอบไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออย่างง่ายดาย เพราะไม่มีอะไรที่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์

ที่มา : bizbug